วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เลขทศนิยม

การคูณทศนิยม
ทศนิยม หมายถึง การเขียนตัวเลขประเภทเศษส่วนเป็น 10 หรือ 10 ยกกำลังต่างๆ แต่เปลี่ยนรูปจากเศษส่วนมาเป็นรูปทศนิยม โดยใช้เครื่องหมาย . (จุด)แทน
เช่น 7/10 = 0.7
    การคูณทศนิยมคือ การเอาจำนวนที่มากกว่าสองจำนวนมาคูณกัน แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นทศนิยมที่มีจำนวนตำแหน่งทศนิยมเท่ากับจำนวนตำแหน่งทศนิยมของตัวตั้งและตัวคูณมารวมกัน
วิธีการคูณทศนิยม 
    1. การหาผลคูณโดยใช้การบวก เช่น 2 x 3.5 = 3.5 + 3.5 = 7.0
    2. การหาผลคูณโดยการเปลี่ยนทศนิยมให้เป็นเศษส่วน เช่น
    3. การหาผลคูณโดยวิธีลัด ให้คูณเหมือนการคูณจำนวนนับด้วยจำนวนนับ และผลคูณจะมีตำแหน่งทศนิยมเท่ากับทศนิยมที่โจทย์กำหนดให้ เช่น
3×0.7 = 2.1 หรือ 4 x2.17 = 8.68 เป็นต้น
    คุณสมบัติการสลับที่ของการคูณ  เช่น
         5×0.8 = 0.8×5 =4.0
หลักเกณฑ์การคูณทศนิยม
1.การหาผลคูณระหว่างทศนิยมที่เป็นบวก ให้นำค่าสัมบูรณ์มาคูณกัน แล้วตอบเป็นจำนวนบวก
2.การหาผลคูณระหว่างทศนิยมที่เป็นลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์มาคูณกัน แล้วตอบเป็นจำนวนบวก
3.การหาผลคูณระหว่างทศนิยมที่เป็นบวกกับทศนิยมที่เป็นลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์มาคูณกัน แล้วตอบเป็นจำนวนลบ
1.การหาผลคูณระหว่างทศนิยมที่เป็นบวก ให้นำค่าสัมบูรณ์มาคูณกัน แล้วตอบเป็นจำนวนบวก
ตัวอย่างที่ 1จงหาผลคูณของ      1.2x 5  3.9
วิธีทำ              1.25         ทศนิยม  2  ตำแหน่ง
                           x
                        3.9        ทศนิยม 1 ตำแหน่ง
                    1125
                   3750
                  4875    ทศนิยม  3  ตำแหน่ง
ดังนั้น 1.25  x  3.9  =  4.875
2.การหาผลคูณระหว่างทศนิยมที่เป็นลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์มาคูณกัน แล้วตอบเป็นจำนวนบวก
ตัวอย่างที่ 2 จงหาผลคูณของ  (-30.2)  x (-0.13)
วิธีทำ หาผลคูณของ  30.2  x   0.13  แล้วตอบเป็นจำนวนบวก
                    302               ทศนิยม  1  ตำแหน่ง
                            x
                       13                 ทศนิยม 2 ตำแหน่ง
                    906
                 3020
                 3926 ทศนิยม  3  ตำแหน่ง
ดังนั้น (-30.2) x  (-0.13)  =  3.926
3.การหาผลคูณระหว่างทศนิยมที่เป็นบวกกับทศนิยมที่เป็นลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์มาคูณกัน แล้วตอบเป็นจำนวนลบ
ตัวอย่างที่ 3 จงหาผลคูณของ  15.7 x(-2.35)
วิธีทำ หาผลคูณของ  15.7  x  2.35  แล้วตอบเป็นจำนวนลบ
              157                 ทศนิยม  1  ตำแหน่ง
                   x
              235         ทศนิยม  2  ตำแหน่ง
              785
            4710
         31400 ทศนิยม  3  ตำแหน่ง
         36895
ดังนั้น 15.7 x(-2.35)  =  -36.895
การนำทศนิยมมาคูณกัน
                  ให้นำตัวตั้งและตัวคูณมาคูณกันแบบเดียวกับการคูณจำนวนเต็ม โดยไม่ต้องสนใจจุดทศนิยม แต่เมื่อคูณเสร็จแล้วจึงเติมจุดทศนิยมลงไปให้ถูกต้อง โดยจำนวนตำแหน่งทศนิยมของผลลัพธ์จะเท่ากับผลบวก
ของจำนวนตำแหน่งทศนิยมของตัวตั้ง กับจำนวนตำแหน่งทศนิยมของตัวคูณ เช่น
1.       0.35 x 0.2   มีทศนิยม  2 ตำแหน่ง
                      0.35
                                    x
                        0.2
                   00.70   นับทศนิยมรวมกันได้ 3 ตำแหน่ง
      ดังนั้น 0.35 x 0.2 = 0.070
2.  4 x 0.5 = 0.5 + 0.5 + 0.5 + 0.5
                            = 2.0
3.    0.2 x  3 = 3 x 0.2 (กฎการสลับที่การคูณ)
                            = 0.2 + 0.2 + 0.2
                            = 0.6
การคุณเลขทศนิยมด้วย 10 ,100 ,1000 ฯลฯ
 ให้เลื่อนจุดทศนิยมไปทางขวามือ ให้ตำแหน่งที่เลื่อนไปเท่ากับจำนวนเลข 0 จากจำนวนที่นำมาคูณ เช่น
 8.46 x 10    = 84.6  (เลื่อนจุดทศนิยมไป  1 ตำแหน่ง)
  98.43 x 100  = 9843 (เลื่อนจุดทศนิยมไป 2 ตำแหน่ง ได้เป็นจำนวนเต็ม)
  7432 x 1000 = 743.2 (เลื่อนจุดทศนิยมไป 3 ตำแหน่ง)
โจทย์การปัญหาการคูณทศนิยม มีหลักดังนี้
    ขั้นตอนการทำโจทย์การปัญหาการคูณทศนิยม
        1.) อ่านโจทย์ให้เข้าใจว่าโจทย์กำหนดสิ่งใดให้ และต้องการทราบอะไร
        2.) พิจารณาวิธีหาคำตอบโดยถ้าโจทย์กำหนดจำนวนสิ่งของให้ และบอกว่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าจะใช้วิธีการคูณ
 ตัวอย่าง ซื้อผ้าเช็ดหน้า 1/2 โหล ราคาผืนละ 5.25 บาท ให้ธนบัตรใบละ100 บาท จะได้รับเงินทอนกี่บาท 
 ประโยคสัญลักษณ์ 100 – (5.25×6) = ?
วิธีทำ ซื้อผ้าเช็ดหน้าราคาผืนละ 5.25 บาท
         ผ้าเช็ดหน้า 1/2 โหลเท่ากับ 6 ผืน
        จ่ายเงินค่าผ้าเช็ดหน้า 6×5.25 = 31.50 บาท
        ให้ธนบัตร 100 บาท
  จะได้รับเงินทอน 100 – 31.50 = 63.50 บาท
 ทศนิยมนั้นจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราตลอด  ไม่ว่าจะเป็นการบอกค่าของเงินที่เราใช้   การบอกเวลา   บอกหน่วยความยาว ฯลฯ